เที่ยวเสม็ด

เดือนสุดท้ายของปีแล้วน้า เรามาพักผ่อนที่เกาะเสม็ดกันเถอะ แต่ก่อนมาอยากให้ทุกคนเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้พร้อมน้า ซึ่งมีดังนี้ ประกาศเอกสารก่อนข้ามเกาะ ต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ 1. หลักฐานฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือ 2. ใบรับรองแพทย์ว่าหายจาก covid มาไม่เกิน 90 วัน หรือ 3. ผลตรวจ ATK มีใบรับรอง อายุไม่เกิน 7 วัน ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ต้องค่ะ กรณีต้องใช้ผลตรวจ ATK สามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ อาคารท่าเรือเทศบาลบ้านเพ (ติดกับตำรวจท่องเที่ยว) พร้อมใบรับรอง โดยเอกชน รอผล 15-30 นาที หรือ คลินิกกรุงเทพระยองใกล้เคียงสอบถามได้ที่ 063-8275770 เผื่อการเดินทาง มาถึงเพื่อตรวจก่อนล่วงหน้าและก่อนลงเรือ สัก2 ชม.นะคะ

ดาร์เรล คีธ ผู้ก่อตั้ง บริษัทไฮโดรโกลว์ ที่ดำเนินธุรกิจด้านไฟสำหรับช่วยในการปลา ตั้งอยู่เมืองดอว์สัน รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ได้ค้นคว้าศึกษาเกี่ยวกับไฟเหมาะสำหรับใช้ดึงดูดปลา และสรุปว่า ความยาวคลื่นของแสงสีขาว และแสงสีเขียว (495-570 nm) มีความโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ ในการดึงดูดแพลงก์ตอน แพลงก์ตอน นั้นอย่างที่ทราบกันเป็นลำดับล่างสุดของห่วงโซ่ เป็นอาหารหลักของปลาขนาดเล็ก ดังนั้น เมื่อแพลงก์ตอนมารวมกันจำนวนมากๆ บรรดาปลาเล็กปลาน้อยทั้งหลายก็ตามเข้ามากินอาหาร และปลานักล่าทั้งหลายก็ตามมากินปลาเล็กนั้นอีกที แต่ก็มีปลานักล่าบางชนิดเหมือนกันที่ แสงไฟดึงดูดปลาโดยตรงเหมือนแพลงก์ตอน แม้ในกรณีนี้ ไฟแสงสีเขียวก็ได้ผลดีกว่าแสงสีอื่นอีกเช่นกันส่วนไฟแสงสีฟ้าถึงสีน้ำเงิน (425-490 nm) นั้น ให้ผลดีเหมือนกับ ไฟสีเขียว ในด้านความสามารถในการลงไปในน้ำได้ลึกและให้ผลดีในการดึงดูดปลาเล็กปลาน้อยในน้ำทะเล เหมือนไฟแสงสีเขียว แต่ทว่าแสงสีน้ำเงินให้ผลไม่ดีนักสำหรับการจับปลาในน้ำจืด ไฟแสงสีขาว ให้ผลในการดึงดูดแพลงก์ตอนดีเช่นกัน แต่ไฟแสงสีขาว สว่างลงไปในน้ำได้น้อย หรืออีกความหมายหนึ่งคือถูกดูดกลืนในน้ำได้มากกว่าไฟแสงสีเขียว หรือสีฟ้า จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดึงดูดแพลงก์ตอนได้น้อยกว่าปลาและสัตว์น้ำขนาดใหญ่ ที่อยู่ในห่วงโซ่อาหารลำดับสูงขึ้นมา มีการปรับตัวให้มองเห็นสีเขียวหรือสีฟ้าของน้ำทะเลเป็นเสมือนฉากหลัง หรือแบกกราวด์ในการมองเห็นและเพื่อทำให้มองเห็นอาหารได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และในเหล่าบรรดาอาหารทั้งหลายโดยเฉพาะสัตว์น้ำขนาดเล็กจำพวกแพลงก์ตอน ส่วนใหญ่จะมีสีออกไปทางสีแดง จึงทำให้ปลา มองเห็นและหาเป็นอาหารได้ง่ายขึ้นเมื่อมีฉากหลังสีเขียวหรือฟ้า

สวัสดีจ้าทุกคนนนนน 🙂 ตอนนี้เราก็เปิดประเทศได้ครึ่งเดือนแล้ว วันนี้จะพาไปชมบรรยากาศที่คนึกครื้นสนุกสนานของแสงเทียนกัน บรรยากาศสนุกสนานตอนกลางวัน บรรยากาสุดแสนโรแมนติกยามค่ำคืน บรรยากาศออกไปตกหมึก

การดำน้ำตื้น ที่เรียกว่า สน็อกเกิ้ล (Snorkeling) หรือ สกิน ไดฟ์ (Skin Dive) เป็นการดำน้ำตื้นที่มีความลึกไม่เกิน 0.9 เมตร ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของปะการังหลายชนิดที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม มีพืชและสัตว์ ใต้น้ำประเภทอื่น ๆ ประกอบกระแสน้ำไม่รุนแรง และน้ำใสสะอาด เป็นกิจกรรมที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพืชและสัตว์ใต้น้ำ ได้ใกล้ชิดและเพลิดเพลินกับธรรมชาติใต้ทะเลที่มีสีสันสวยงาม โดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีเพียงแค่หน้ากากดำน้ำ ท่อหายใจ ชูชีพและตีนกบ แต่เพื่อความปลอดภัยในการดำน้ำ เราจึงจำเป็นที่จะต้องเช็คอุปกรณ์ต่างๆก่อนลงน้ำ และวิธีเช็คอุปกรณ์มี ดังนี้ 1. หน้ากากดำน้ำ การใส่หน้ากากต้องใส่ให้พอดีกับหน้าไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ให้เราลองเอาหน้ากากมาลองสวมที่หน้า ก่อนสวมต้องเช็คเส้นผมไม่ให้อยู่ในหน้าแว่นแล้วลองคว่ำหน้าลงแบบไม่ต้องรัดสายหน้ากาก ลองหายใจเข้า ถ้าหายใจเข้าแล้วเป็นสูญญากาศ อากาศไม่เข้ามาได้ให้ปล่อยมือ ขณะที่ยังสูดหายใจถ้าหน้ากากยังติดอยู่ที่หน้าก็แสดงว่าพอดีกับหน้าเราให้ปรับสายรัดให้พอดีได้เลยจ้า 2. ท่อหายใจ ส่วนตัวท่อหายใจจะต้องอยู่ด้านซ้ายมือของเราเสมอ เพราะองศาของท่อหายใจจะหันเข้าทางตัวเราเฉพาะทางด้านซ้าย ถ้าใส่ทางด้านขวาอาจจะงัดที่กัดจนน้ำเข้าท่อได้ ให้เราลองคาบท่อและฝึกหายใจให้ชิน ที่คาบปากจะมียางยื่นออกมาให้เรากัดตรงยางนั้นและอมที่คาบไว้ทั้งอัน สำคัญที่เม๊มมากต้องเม๊มให้สนิทแล้วน้ำจะไม่เข้า 3. ชูชีพ ติดสายรัดให้ครบให้รัดพอดีกับตัวเราไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป ที่สำคัญจะมีสายรัดเป้าต้องรัดก่อนลงน้ำทุกครั้งจะช่วยพยุงตัวไม่ให้หลุดจากชูชีพ  4. ตีนกบ การใช้ตีนกบหรือฟินที่ถูกต้องนั้น ต้องเหยียดขาเกือบตรง งอข้อพับเข่าเล็กน้อย ตีขาช้าๆในแนวดิ่งทำคล้ายๆเหมือนกับปั่นจักรยานไม่เหมือนตีขาปกติที่เราว่ายน้ำกันและถ้าไปใช้ตีนกบเขตที่มีปะการังต้องระวังด้วยอาจจะไปเตะปะการังเสียหายได้น้า […]

ปะการังไฟ (Fire corals) ดูผิวเผินจะเหมือนปะการังทั่วไป แต่ที่จริงถูกจัดอยู่ใน Class เดียวกับแมงกะพรุนไฟ ต่างกันเพียงปะการังเคลื่อนที่ไปไหนไม่ได้ พบตามชายฝั่งไปจนถึงน้ำลึก 30 เมตร เข็มพิษค่อนข้างร้ายแรง เมื่อเหยื่อเฉียดเข้าไปใกล้มันจะยิงเข็มพิษออกมา เมื่อถูกพิษจะปวดแสบปวดร้อน คัน เป็นผื่นแดงเหมือนน้ำร้อนลวก และใช้เวลาหลายวันกว่าแผลจะหาย  วิธีปฐมพยาบาล ใช้แอมโมเนียหรือแอลกอฮอล์ชะล้างแผล แล้วอาจจะใช้ในผักบุ้งทะเล บดโปะลงบนบาดแผล ถ้าหากแผลที่ถูกเข็มพิษอยู่ในขั้นรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกวิธี การป้องกัน สวมเสื้อผ้าให้มิดชิดก่อนลงเล่นน้ำในบริเวณที่มีพวกนี้อาศัยอยู่ จริงอยู่ผิวหนังส่วนที่หนา เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า พอจะทนพิษของพวกนี้ได้บ้าง แต่ทางที่ดีไม่ควรเสี่ยงน้า

ประเทศเปิดแล้ววววว และได้มีการผ่อนคลายมาขึ้น แต่เราก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดอยู่น้า ซึ่งมาตรการของจังหวัดระยองมีดังนี้ 🔴 จังหวัดระยอง ออกคำสั่งที่ 15650/2564 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 29 ต.ค. 64 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง 🔴 1. การกำหนดให้เกาะเสม็ด ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดระยอง . 🔴 2. กิจการหรือกิจกรรมในพื้นที่เกาะเสม็ดสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ ภายใต้เงื่อนไข มาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และปฏิบัติตามคู่มือและหลักเกณฑ์การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ตามผนวกแนบท้ายคำสั่งฉบับนี้อย่างเคร่งครัด 🚩 ยกเว้นกิจกรรมหรือสถานที่บางประเภทที่ยังคงงดดำเนินกิจการ/กิจกรรม ได้แก่ 🚩 1. สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ […]

ไปทะเลเด็กๆก็อยากเล่นน้ำกันใช่ม๊าาา แต่จะเล่นน้ำเราก็ต้องระวังตัวด้วยน้า เพราะกรมควบคุมโรคได้ออกมาเตือนประชาชนลงเล่นน้ำทะเลช่วงมรสุม หลังฝนตกใหม่ๆ และปลายฝนต้นหนาว ให้ระมัดระวังแมงกะพรุนที่มีพิษ และหากผู้ที่ถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น การเที่ยวทะเลในช่วงมรสุมและฝนตกอาจเจอแมงกะพรุนที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายหาดได้ โดยแมงกะพรุนที่พบทั่วไปในทะเลไทยมีหลายชนิด ทั้งมีพิษและไม่มีพิษ และพบแมงกะพรุนมากขึ้นในช่วงมีมรสุมของปี รวมถึงช่วงฝนตกหรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษ (Jellyfish-related injury) ที่เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 ราย มีอาการปวดแสบบริเวณลำตัว สงสัยว่าถูกพิษแมงกระพรุนกล่องสายเดียว แต่ไม่เห็นตัวแมงกระพรุน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ แมงกะพรุนที่เป็นอันตรายและมีพิษรุนแรงคือ แมงกะพรุนกล่อง ซึ่งมีลักษณะโปร่งใส รูปร่างทรงสี่เหลี่ยม มีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุม และหนวดอาจยาวเท่ากับความสูงของคน แมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุม และชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุม ซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวมๆแล้ว ประมาณ 12-15 เส้น และผู้เสียชีวิตเกิดจากชนิดที่มีหนวดหลายเส้น ซึ่งกระเปาะพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีกระเปาะพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีพิษ 3 แบบ คือ 1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย 2.มีอาการปวดรุนแรง และ 3.หากได้รับพิษในปริมาณมาก […]