travel

เป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดในเวลากลางคืน ซึ่งปรากฏการณ์ทะเลเรืองแสงนี้เราจะเรียกว่า “Bioluminescence” ซึ่งคนไทยบางพื้นที่อาจจะเรียกว่าต่อ ๆ กันมาว่า พรายน้ำ นั่นเอง หรือที่เรียกกันว่า “ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ  (Red tide)” คือชื่อสามัญของปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่ง เป็นการรวมตัวขนาดใหญ่ของจุลชีพในท้องทะเล เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากสาหร่ายที่อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย น้ำเค็ม หรือ น้ำจืด มีการสะสมอย่างรวดเร็วในห้วงน้ำ ส่งผลให้เกิดสีบนผิวน้ำ โดยสิ่งมีชีวิตพวกนี้เรียกว่า แพลงก์ตอน (Plankton)  โดยแพลงก์ตอนที่ทำให้เกิดการเรืองแสงนี้จะเป็นแพลงก์ตอนพืชในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต  แพลงก์ตอนเหล่านี้สามารถทำปฏิกิริยาพิเศษที่เรียกว่า Bioluminescence ทำให้ผนังเซลล์เกิดการเรืองแสงเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินได้ และยิ่งเมื่อแพลงก์ตอนพวกนี้มาอยู่รวมกันมากๆ เราจึงเห็นทะเล เรืองแสงเป็นสีน้ำเงิน หรือสีเขียวอมฟ้าออกมาได้ชัดเจน และถ้าน้ำมีการสั่นสะเทือนหรือเราลงไปในน้ำมันก็จะเกิดแสงรอบ ๆ นั่นเอง แพลงก์ตอนกลุ่มนี้พบได้ทั่วโลกเป็นปกติ แต่จะแพร่พันธุ์ได้มากเป็นพิเศษหรือ เกิดการ Bloom ขึ้นในทะเลที่มีแอมโมเนีย ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส อยู่มากและนั่นก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของพวกมันนั่นเอง ในภาวะปกติเจ้าพวกแพลงก์ตอนเหล่านี้จะพบไม่หนาแน่นและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ แต่หากในน้ำที่มีปริมาณธาตุอาหารมากเกินไปจะทำให้เกิดการแบ่งตัวขยายปริมาณของแพลงก์ตอนอย่างรวดเร็วทำให้ปริมาณมวลแพลงก์ตอนเหล่านี้อาจบดบังแสงหรือปิดกั้นผิวน้ำทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และการบดบังแสงกันเองของแพลงก์ตอนจะทำให้พวกมันค่อย ๆ ตายลงจนในที่สุด การเรืองแสงของแพลงตอนดังกล่าวจะอยู่ได้นานเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นแสงจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆเลย ยิ่งถ้าได้ดูบนหาดส่วนตัว […]

ทุกคนนนนนน ตอนนี้คลายล็อคแล้วไปเที่ยวกันเถอะ😁 แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความกังวลอยู่ใช่ไหมล่ะ ว่าถ้าไปเที่ยวจะติดโควิดไหมน้า อย่างนั้นเรามาดูวิธีปฏิบัติตัวตอนไปเที่ยวในยุคโควิดกันจ้า 1.ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด การให้ความร่วมมือและปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น การรักษาระยะห่างระหว่างกัน 1- 2 เมตร การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง หมั่นล้างมือด้วยสบู่ล้างมือหรือ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หลีกเลี่ยงการนำมือสัมผัสใบหน้า และหลีกเลี่ยงใช้สิ่งของส่วนตัว หรือ ภาชนะต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของตัวเองและคนในครอบครัวน้า 2.เป็นไปได้ให้เดินทางด้วยรถส่วนตัว นอกจากสะดวกสบายสามารถแวะเที่ยวได้ตามต้องการ ยังช่วยลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโควิด-19 ได้อีกด้วย  3.สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่จะไปพักผ่อน  เลือกแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เป็นชุมชนแออัด และคอยอัพเดทข่าวสารการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถเข้าไปดูได้ผ่านทางเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข 4.หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงภัยและพื้นที่ใกล้เคียง  ไม่ควรเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดสูง เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดของโควิด19 5.เลือกโรงแรมที่มาตราการทำความสะอาดอย่างมีมาตราฐาน  ทั้งผ่านการฉีดยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดทุกชั่วโมง และการแยกของใช้ส่วนตัวที่ต้องใช้แบบส่วนกลาง หลีกเลี่ยงการเข้าพักแบบรวมกับผู้อื่น 5ขั้นตอนง่ายๆนี้ ถ้าเราปฏิบัติตามได้ครบและถูกต้อง ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19ได้มากๆเลยจ้า😊 Safe trip na ka🏝

ฮัลโหลทุกคนนนนนน😁 ตอนนี้สถานการณ์ก็เบาลงแล้วเนอะ มีการผ่อนคลายล็อคดาวน์กันแล้ว แต่ก็จะมีกฎกติกาบางอย่างยังอยู่ มีอะไรบ้างน้า ไปดูกัน…. คำสั่งจังหวัดระยอง เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดฯ ฉบับที่ 21 กำหนดมาตการ ดังนี้ 📌ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น จนถึงวันที่ 14 ก.ย.64 📌โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา สามารถใช้อาคารสถานที่จัดการเรียนการสอนได้ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด 📌ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ที่เป็นห้องปรับอากาศ นั่งได้ 50% ของจำนวนที่นั่งปกติ ร้านทั่วไปที่อากาศถ่ายเท นั่งได้ 75% ของจำนวนที่นั่งปกติ จำหน่ายได้ถึงเวลา 20.00 น. ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 📌เปิดสถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม 📌เปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวดแผนไทย เฉพาะบริการนวดเท้า 📌ตลาดนัด ให้เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค 📌ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น. และมีเงื่อนไข […]

สวัสดีจ้าาาา 😊 ทุกคนน่าจะเคยได้ยินข่าวหรือพอจะทราบกันมาว่ากรมอุทยานห้ามทาครีมกันแดดลงน้ำทะเล สาเหตุเพราะอะไรนั้น แล้วครีมกันแดดประเภทไหนกันนะที่ห้ามทา มาดูกันเลยค่าาาาา🌊 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนําและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ โดยมีใจความว่า ด้วยในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเป็นจํานวนมาก รวมทั้งมีการนําและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ โดยจากข้อมูลทางวิชาการพบว่าสารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดด มีส่วนทําให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้นทําลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทําให้ปะการังฟอกขาว ซึ่งห้ามนําและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไป ในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparaben หากผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท เพราะฉะนั้นก่อนไปเที่ยวอยากให้ทุกคนศึกษาหาข้อมูลในการไปเที่ยวสถานที่นั้นๆก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและธรรมชาติน้า  Have a lovely trip na ka🦋

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ช่วงนี้สายฝอกำลังมาแรง เพราะงั้นไปทะเลทั้งทีเราก็อยากจะมีผิวแทนสวย สไตล์สายฝอ แต่จะทำให้ผิวแทนเนียนสวยได้ยังไงนั้น มาดูกันเลยจ้า 1.ก่อนอาบแดด เลือกเสื้อผ้าที่ไม่มีลายแปลก รวมถึงแบบที่แปลกๆ อย่างมีเส้นไขว้ไปมาหรือเป็นตาข่าย เนื่องจากแสงแดดมันจะทะลุผ่านเสื้อผ้าเข้ามาได้ เพราะหลังจากอาบแดดเสร็จเนี่ยผิวก็จะเป็นลายตามเสื้อผ้าที่ใส่ ที่จริงแล้วทางเลือกที่ดีที่สุดคือไม่ใส่อะไรเลยค่ะ เพราะผิวจะเนียนทั้งตัวเลย  เริ่มจากการขัดผิวก่อน เพราะพอเราเอาผิวหนังที่ตายแล้วออกไป ผิวก็จะดูดซึมรับสารและแสงแดดได้ดีขึ้น  ต่อมาก็บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยโลชั่น อย่าปล่อยให้ตัวแห้งไปอาบแดดนะคะ ไม่งั้นผิวไหม้เอาง่ายๆ หรืออาจใช้น้ำมันทาทั้งตัว ใช้เป็นน้ํามันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด (สําหรับผิว) เพื่อเคลือบผิว วิธีนี้นอกจากจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวแล้ว น้ำมันยังทําหน้าที่เป็นสารกันแดดธรรมชาติด้วย (หากมีผิวมันหรือผิวเป็นสิวให้เว้นบริเวณที่เป็นปัญหา) หลังจากนั้นทาครีมกันแดดทั้งตัว โดยเลือกที่ปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB มี SPF 50+ อาบแดดต่อเนื่องไม่เกิน 30 นาที (สําหรับแดดเมืองไทย) สำหรับต่างประเทศช่วงที่เหมาะคือ 10 โมง ถึงบ่าย 2 แต่ของไทยนั้นช่วงนี้จะร้อนไปหน่อย ถ้าอยากอาบแดดน่าจะให้อยู่ในช่วงเช้าราว 8 โมง ถึง 11 โมง แล้วก็ช่วงเย็นราว 3 […]

ขยะทะเลเป็นปัญหาสำคัญระดับโลก ซึ่งทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงปัญหาและหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง และประเทศไทยติดอันดับ5ของโลกที่สร้างขยะทะเลมากที่สุด ขยะทะเลมาจากไหนบ้างนะ ? เกิดจากมนุษย์ที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเลทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งขยะดังกล่าวเป็นขยะพลาสติกมีน้ำหนักเบาและไม่สามารถย่อยสลายได้ในเวลาที่สั้นจึงถูกพัดพาไปในที่ที่ห่างไกลจากแหล่งกำเหนิด โดยคลื่น ลม กระแสน้ำ และน้ำขึ้นน้ำลง  ประเภทของขยะทะเล  ขยะอินทรีย์ : 64% ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลาย ได้เร็ว สามารถนํามาหมักทําปุ๋ยได้ เช่น เศษผัก เปลือกผลไม้เศษอาหาร ใบไม้ เศษเนื้อสัตว์ อึปลาวาฬ เป็นต้น ขยะรีไซเคิล : 30% วัสดุเหลือใช้ซึ่งสามารถนํา กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้ เช่น ขวดแก้ว ขวด พลาสติก กระดาษ กระป๋องเครื่องดื่ม ยางรถยนต์ กล่องเครื่องดื่มแบบ UHT เป็นต้น ขยะอันตราย : 3% ที่พบเห็นเป็นประจำภายในบ้านเรือนของเรา ได้แก่ ขวดน้ำยาทำความสะอาด แบตเตอรี่มือถือ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟแบบต่างๆ สตาร์ทเตอร์ ยาหมดอายุ ปรอทวัดไข้ กระป๋องสี ทินเนอร์ เป็นต้น […]

หอยเม่นอาศัยตามแนวปะการัง รูปทรงกลมคล้ายผลส้ม เม่นทะเลที่มีพิษจะมีหนามที่กลวงและมีพิษอยู่ภายใน โดยหนามของหอยเม่นเป็นผลึกแคลเซียมคาร์บอร์เนตที่มีความเปราะมาก หนามนี้จะแทงทะลุผิวหนังได้ง่าย เมื่อหักจะปล่อยสารพิษออกมาทำให้เหยื่อหรือศัตรูเจ็บปวด  หอยเม่นตามนิสัยของมันนั้นไม่สามารถสลัดขนใส่คนเพื่อป้องกันตัวได้เหมือนกับเม่นทั่วไปและไม่สามารถว่ายน้ำได้ ดังนั้นการที่เราจะถูกหอยเม่นตำได้คือมันจะสลัดขนเมื่อเราไปเหยียบมันเอง วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น คีบอย่างเร็วที่สุดและควรระมัดระวังเท่าที่จะทำได้หรือเอาของแข็งทุบบริเวณที่ถูกหอยเม่นตำเพื่อให้หนามของหอยเม่นสลายหายไปไม่แนะนำให้ทุบหนามเม่นทะเลให้แตกละเอียด โดยเฉพาะบรเวณใกล้ข้อหรือเส้นเลือดหรือเส้นประสาท เพราะพิษอาจเข้าข้อหรือทําอันตรายเส้นเลือดหรือเส้นประสาทได้ จากนั้นให้ล้างบริเวณแผลด้วย น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว เพราะเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยลดอาการปวดแสบร้อนได้ หรือแช่แผลที่โดนตําด้วยน้ำอุ่นหรือประคบร้อน ด้วยความร้อนที่ใช้ประมาณ 50 – 60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-15 นาที แล้วทำซ้ำ 2-3 ครั้ง จะช่วยสลายพิษได้เร็วขึ้น รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง เพราะฉะนั้นแล้วเวลาทุกคนไปเที่ยวทะเลหรือไปดำน้ำ ให้ระวังตัวมากๆนะคะ สังเกตดูก่อนว่าบริเวณที่เราจะดำน้ำนั้น มีหอยเม่นอาศัยอยู่ไหม เวลาเดินเล่นริมทะเลแนะนำให้ให้รองเท้าเพื่อความปลอดภัยจากการถูกหอยบาดเท้าหรือหอยเม่นตำเท้า แต่ถึงอย่างนั้นรองเท้ายางที่บางๆ หอยเม่นก็ยังสามารถทิ่มทะลุรองเท้าของเราได้อยู่จ้า