ไปทะเลเด็กๆก็อยากเล่นน้ำกันใช่ม๊าาา แต่จะเล่นน้ำเราก็ต้องระวังตัวด้วยน้า เพราะกรมควบคุมโรคได้ออกมาเตือนประชาชนลงเล่นน้ำทะเลช่วงมรสุม หลังฝนตกใหม่ๆ และปลายฝนต้นหนาว ให้ระมัดระวังแมงกะพรุนที่มีพิษ และหากผู้ที่ถูกพิษแมงกะพรุน ห้ามขัดถูหรือขยี้ในบริเวณที่ถูกแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น
การเที่ยวทะเลในช่วงมรสุมและฝนตกอาจเจอแมงกะพรุนที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาชายหาดได้ โดยแมงกะพรุนที่พบทั่วไปในทะเลไทยมีหลายชนิด ทั้งมีพิษและไม่มีพิษ และพบแมงกะพรุนมากขึ้นในช่วงมีมรสุมของปี รวมถึงช่วงฝนตกหรือหลังฝนหยุดใหม่ๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากรมควบคุมโรคได้รับรายงานพบผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากแมงกะพรุนพิษ (Jellyfish-related injury) ที่เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 3 ราย มีอาการปวดแสบบริเวณลำตัว สงสัยว่าถูกพิษแมงกระพรุนกล่องสายเดียว แต่ไม่เห็นตัวแมงกระพรุน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ทั้งนี้ แมงกะพรุนที่เป็นอันตรายและมีพิษรุนแรงคือ แมงกะพรุนกล่อง ซึ่งมีลักษณะโปร่งใส รูปร่างทรงสี่เหลี่ยม มีหนวดยื่นออกมาในแต่ละมุม และหนวดอาจยาวเท่ากับความสูงของคน แมงกะพรุนกล่องแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ชนิดที่มีหนวดเพียงเส้นเดียวในแต่ละมุม และชนิดที่มีหนวดหลายเส้นในแต่ละมุม ซึ่งกลุ่มนี้มีหนวดรวมๆแล้ว ประมาณ 12-15 เส้น และผู้เสียชีวิตเกิดจากชนิดที่มีหนวดหลายเส้น ซึ่งกระเปาะพิษจะอยู่ที่สายหนวด หนึ่งตัวอาจมีกระเปาะพิษถึงล้านถุง ทำให้แมงกะพรุนกล่องจัดเป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ซึ่งพิษของแมงกะพรุนกล่องมีพิษ 3 แบบ คือ 1.ทำให้เซลล์ผิวหนังตาย 2.มีอาการปวดรุนแรง และ 3.หากได้รับพิษในปริมาณมาก และพิษเข้าสู่กระแสเลือดและจะเข้าสู่หัวใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้นและระบบหายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที
สำหรับการป้องกันแมงกะพรุนพิษ ขอให้ระมัดระวังการลงเล่นน้ำทะเล ในช่วงมีมรสุมหรือปลายฝนต้นหนาว ในวันคลื่นลมสงบ อากาศแจ่มใส หรือหลังฝนตกใหม่ๆ โดยเฉพาะแถวชายหาดระดับน้ำตื้นๆ แนะนำให้สวมเสื้อผ้าที่เป็น Lycra suit หรือเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวซึ่งควรเป็นผ้าที่มีเนื้อแน่นและแนบลำตัว
หากสงสัยว่าถูกพิษแมงกะพรุนให้ปฐมพยาบาลตามขั้นตอนเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นวิกฤตก่อน ดังนี้
1.นำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำ
2.เรียกให้คนช่วยหรือเรียกรถพยาบาล (โทร 1669) แต่ห้ามทิ้งให้ผู้บาดเจ็บอยู่ตามลำพัง เพราะอาจหมดสติภายในเวลาไม่กี่นาที
3.ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน
4.ราดน้ำส้มสายชูที่ใช้กันตามครัวเรือน ตรงบริเวณที่สัมผัสแมงกะพรุนพิษทันที โดยราดอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยนาน 30 วินาที และห้ามขัดถูหรือขยี้ รวมถึงห้ามราดน้ำจืด น้ำปัสสาวะ และแอลกอฮอล์บริเวณที่ถูกแมงกะพรุน เพราะจะทำให้มีการยิงพิษเพิ่มขึ้น
5.ถ้าผู้ป่วยหมดสติและไม่มีชีพจร ให้ปั๊มหัวใจก่อน หากมีข้อสงสัยประชาชนสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422