ทะเลเรืองแสง

เป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดในเวลากลางคืน ซึ่งปรากฏการณ์ทะเลเรืองแสงนี้เราจะเรียกว่า “Bioluminescence” ซึ่งคนไทยบางพื้นที่อาจจะเรียกว่าต่อ ๆ กันมาว่า พรายน้ำ นั่นเอง หรือที่เรียกกันว่า “ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ  (Red tide)” คือชื่อสามัญของปรากฏการณ์สาหร่ายสะพรั่ง เป็นการรวมตัวขนาดใหญ่ของจุลชีพในท้องทะเล เป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากสาหร่ายที่อาศัยอยู่ในน้ำกร่อย น้ำเค็ม หรือ น้ำจืด มีการสะสมอย่างรวดเร็วในห้วงน้ำ ส่งผลให้เกิดสีบนผิวน้ำ โดยสิ่งมีชีวิตพวกนี้เรียกว่า แพลงก์ตอน (Plankton)  โดยแพลงก์ตอนที่ทำให้เกิดการเรืองแสงนี้จะเป็นแพลงก์ตอนพืชในกลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต 

แพลงก์ตอนเหล่านี้สามารถทำปฏิกิริยาพิเศษที่เรียกว่า Bioluminescence ทำให้ผนังเซลล์เกิดการเรืองแสงเป็นสีเขียวหรือสีน้ำเงินได้ และยิ่งเมื่อแพลงก์ตอนพวกนี้มาอยู่รวมกันมากๆ เราจึงเห็นทะเล เรืองแสงเป็นสีน้ำเงิน หรือสีเขียวอมฟ้าออกมาได้ชัดเจน และถ้าน้ำมีการสั่นสะเทือนหรือเราลงไปในน้ำมันก็จะเกิดแสงรอบ ๆ นั่นเอง

แพลงก์ตอนกลุ่มนี้พบได้ทั่วโลกเป็นปกติ แต่จะแพร่พันธุ์ได้มากเป็นพิเศษหรือ เกิดการ Bloom ขึ้นในทะเลที่มีแอมโมเนีย ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส อยู่มากและนั่นก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีของพวกมันนั่นเอง ในภาวะปกติเจ้าพวกแพลงก์ตอนเหล่านี้จะพบไม่หนาแน่นและไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ แต่หากในน้ำที่มีปริมาณธาตุอาหารมากเกินไปจะทำให้เกิดการแบ่งตัวขยายปริมาณของแพลงก์ตอนอย่างรวดเร็วทำให้ปริมาณมวลแพลงก์ตอนเหล่านี้อาจบดบังแสงหรือปิดกั้นผิวน้ำทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และการบดบังแสงกันเองของแพลงก์ตอนจะทำให้พวกมันค่อย ๆ ตายลงจนในที่สุด การเรืองแสงของแพลงตอนดังกล่าวจะอยู่ได้นานเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นแสงจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆเลย ยิ่งถ้าได้ดูบนหาดส่วนตัว บรรยากาศดีๆ ต้องเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆเลย😊

Let the sea set you free.⭐️