Rip Current หรือเรียกว่า คลื่นทะเลดูด ร่องน้ำวน กระแสน้ำรูปเห็ด เป็นอุบัติเหตุที่พบเจอได้บ่อยบริเวณชายฝั่งมากถึง 80% Rip Current เป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นตามชายฝั่งทั่วไปที่มีสิ่งกีดขวางเส้นทางน้ำ เช่น สันทราย โขดหิน ทำให้ทรายใต้น้ำถูกกัดเซาะจนเป็นร่อง น้ำที่ย้อนกลับจากฝั่งจึงไหลเร็วขึ้น หากบังเอิญเล่นน้ำอยู่ในโซน Rip Current พอดี ย่อมมีโอกาสถูกคลื่นพัดพาออกจากฝั่งได้เร็วกว่าปกติ ชายหาดเมืองไทยที่มักเจอข่าวอยู่บ่อยๆ ว่ามีคนจมน้ำจากเหตุการณ์นี้ เช่น หาดแม่รำพึง จ.ระยอง, หาดกะรน หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต
วิธีสังเกต Rip Current
สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งมีด้วยกัน 4 แบบ อาจมีหลายแบบผสมกันหรืออย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ค่ะ
1. ร่องน้ำและคลื่นหมุนวนบริเวณชายหาด
2. น้ำทะเลที่ออกจากฝั่งมีสีต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
3. ฟองคลื่น สาหร่าย หรือเศษสิ่งของต่างๆ ไหลออกทะเลเป็นแนวยาวตัดกับคลื่น
4. คลื่นบริเวณชายฝั่งถูกตัดออกเป็นร่อง ดูเป็นริ้วๆ
วิธีเอาตัวรอดจาก Rip Current
คลื่นดูด Rip Current สามารถย้ายตำแหน่งได้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสิ่งกีดขวางหรือร่องทรายใต้ท้องทะเลที่เปลี่ยนไป
1. ควรสอบถามหน่วยกู้ภัยชายฝั่ง ว่าบริเวณไหนสามารถลงเล่นน้ำได้ หรือ สังเกตธงเตือนภัย ในกรณีของบ้านเรานิยมใช้ “ธงสีแดง” ปักไว้ตรงชายฝั่ง หากมีธงสีแดงปักบริเวณชายหาด แปลว่าห้ามเล่นน้ำ !!
2. หากเข้าไปอยู่ในวังวนของคลื่นดูด Rip Current ให้ตั้งสติ ลอยคอไปตามน้ำ อย่าฝืนต้านแรงน้ำโดยว่ายเข้าหาฝั่งตรงๆ เพราะจะทำให้อ่อนกำลังลง และอาจหมดแรงจมน้ำได้
- สังเกตแนวคลื่นปกติ แล้วหาจังหวะว่ายน้ำเฉียงออกจากกระแสน้ำที่ไหลแรงของ Rip Current จากนั้นพยายามว่ายขนานกับแนวชายฝั่งจนถึงจุดที่คิดว่าปลอดภัย แล้วจึงค่อยว่ายน้ำกลับเข้าหาชายฝั่ง
- ในกรณีที่ไม่สามารถว่ายน้ำออกไปได้ ให้โบกมือเพื่อขอความช่วยเหลือ
3. หากพบเห็นผู้ที่ตกอยู่ในคลื่นดูด Rip Current ควรทำอย่างไร ?
- ควรโยนสิ่งของที่ลอยน้ำได้ เช่น ห่วงยาง เสื้อชูชีพ ไปตามกระแส Rip Current เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
- รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย หรือ ยามชายฝั่ง ที่มีทักษะและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือจะดีสุด
เพราะฉะนั้นก่อนลงเล่นน้ำอยากให้ทุกคนสังเกตธงแดง สีของน้ำทะเล คลื่น และกระแสน้ำก่อนนะคะ😊
May your joys be as deep as the ocean.💙